17 ธ.ค. 2565

MEGA GAME REVIEW : DIGIMON SURVIVE สมการรอคอย...สู้แล้วรอดไปด้วยกันในโลกดิจิมอน

 MEGA-GAME REVIEW


ห่างหายไปนานมาก ช่วงนี้ไม่มีโอกาสได้มารีวิวเกมใหม่ๆเลย เกมใหม่ๆก็ไม่ค่อยตาม (เยอะจนเล่นไม่ทันละ...) งานหลักของบล็อกเกอร์ก็เยอะเช่นกัน ซึ่งวันนี้จะขอมาพูดถึง 1 เกมและการ์ตูนขวัญใจยุค 90's  - 2000s อย่าง Digimon กับซีรีย์เกมภาคล่าสุด Digimon Survive

อีกอย่างนึงที่ผมจะขอแจ้งก่อนนะครับว่า ผมไม่ได้ติดตามหรือแทบจะได้เล่นเกม Digimon เลย จะเน้นแค่ฝั่งอนิเมะซีรีย์ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ว่าภาคนี้เป็นภาคที่ทำให้ผมมีความอยากเล่นอยู่ไม่ใช่น้อย 


OVERVIEW


หลังจากที่โปรโมทคลิป First Announcement ไปเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ก็ถูกเลื่อนวันเวลาวางจำหน่ายมาหลายรอบ ซึ่งเดิมทีมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2020 แต่เนื่องจากทางผู้ผลิตต้องการให้เกมมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด จึงต้องรีสตาร์ท พัฒนาใหม่ยกชุด จนในที่สุดก็ได้ฤกษ์ออกวางจำหน่ายไปเมื่อ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยส่วนตัวว่าการโปรโมทนั้นทำออกมาดีโคตรๆ งานภาพสวยมาก ไม่ต่างราวกับอนิเมะเลย ถือว่าสมการรอคอยมาถึง 4 ปีจริงๆ 

อีกความน่าสนใจคือ ทางทีมงานพยายามออกแบบจัดวางสตอรี่และรายละเอียดของกราฟฟิคให้ออกมาสวยงาม น่าติดตาม รวมทั้งเรื่องของ Gameplay ที่ผสมผสานระหว่าง 2 แนวเกมอีกด้วย

Graphic


ส่วนของกราฟฟิค ถือว่าสมการรอคอยเพราะว่างานละเอียดมาก ไม่ว่าจะฉากเนื้อเรื่องหรือฉาก  มีทั้งความสมูท ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ ไม่แข็งกระด้าง แสงและเงาของภาพก็จัดวางได้สวยงาม ทำให้ดูสมน้ำสมเนื้อ มีความอนิเมะมากเลยทีเดียว

(แอบทำให้นึกถึงสตอรี่ของเกม Guilty Gear Xrd และ STRIVE ที่มีกลิ่นอนิเมะผสมๆกัน แวะย้อนกลับไปอ่านรีวิวได้ที่ =>  GUILTY GEAR REVIEW)


Gameplay


หากใครเล่นเกมนี้ เท่ากับคุณจะเหมือนได้เล่น 2 แนวใน 1 เกม ทั้ง Visual Novel ซึ่งเป็นการดำเนินเส้นเรื่องไปพร้อมกับเรื่องราวตลอดเกมนี้ แน่นอนว่าไม่มีเพียงการ จะยังมีคำถามแสดงออกมาขณะสนทนากับ NPC ว่าเราจะตัดสินใจหรือตอบยังไง ซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินเรื่องราวจนไปถึงฉากจบ (แอบเล่นจิตวิทยาหน่อยๆละเกมนี้)

และอีก 1 หัวใจที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเกมมอนสเตอร์นี้ก็คือระบบการต่อสู้ โดยเป็นรูปแบบ Tactical Turn-Based RPG โดยในฉากต่อสู้จะเป็นแบบ 3D ที่จะต้องเดินหมากตัวละครในการเผชิญหน้ากับศัตรูรวมไปถึงบอส

เช่นเคย ระบบการ Evolution ก็ต้องมีคู่กันกับซีรีย์นี้เช่นกันมาตั้งแต่ภาคแรก โดยจะต้องวางแผนทั้งการรบ รูปแบบธาตุที่ชนะหรือแพ้ทาง จังหวะการ Evolution (ซึ่งจะมีการจำกัด)

แต่ถ้าใครที่เป็นคอเกม Action-Adventure สายลุยๆ บุกๆ ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะซีรีย์นี้ให้คุณได้แอคชั่นได้แค่แปบๆ ที่เหลือ Talk กันยาวๆ แต่ก็อยากให้ลองเปิดใจเล่นดูครับ

Story

หากใครที่เป็นสาวกหรือติดตามตั้งแต่แรกๆจนมาถึงปัจจุบัน จะทราบกันดีว่า Digimon พอเข้าสู่ซีรีย์ใหม่ก็จะเป็นอีกจักรวาลนึงเลย โดยเฉพาะตัวละครที่เปลี่ยนยกชุด นอกเหนือจาก 2 ภาคแรกที่ยังเชื่อมโยงกันอยู่ และดิจิมอน (บางตัว) ที่ปรากฏตัวมากกว่า 1 ซีรีย์ 

(จากที่ติดตามมา มีบางภาคที่รูปแบบการวิวัฒนาการแตกต่างออกไป อย่างเช่น FRONTIER ที่ไม่มีดิจิมอนคู่หูแต่จะใช้สปิริตในการรวมร่างจนเกิดเป็นดิจิมอน , FUSION (XROS WARS) รวมร่างดิจิมอน (แต่ภาคนี้โอเวอร์เอาเรื่องเหมือนกัน) แต่ที่มีความโดดและแตกต่างสุดโดยความเห็นส่วนตัวก็ Appmon หรือ Digimon Universe App Monsters ที่ดิจิมอนแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติและรูปร่างหน้าตาตามรูปแบบแอปพลิเคชั่นหรือฟีเจอร์ต่างๆที่เราใช้กัน เช่น Map , Messager , Camera , Games ฯลฯ แต่ก็เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างนึงในการใช้ชีวิต //เราว่าอีกไม่นาน Digimon Multiverse ต้องมาละ...)

แต่สิ่งที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกันในแทบจะทุกซีรีย์ก็คือ เด็กที่ถูกเลือกที่ได้รับภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือและกอบกู้โลกของดิจิมอนและโลกมนุษย์ให้คืนความสงบสุข (เป็นแนว Isekai ที่มาก่อนกาล แต่กลับไปกลับมาได้)

ส่วนเนื้อเรื่องสำหรับในภาคนี้ จะเป็นเหมือนการ Set Zero ให้เหมือนกับสมัย 1999s (ภาคแรก) โดยที่ไม่มีใครในโลกนี้รู้จักกับ Digimon มาก่อน โดยระหว่างที่กำลังเข้าค่ายทัศนศึกษานั้น ก็เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดและลี้ลับเกิดขึ้น ทำให้เด็กที่ถูกเลือกนั้นถูกดูดเข้าไปสู่โลกดิจิมอน และได้พบกับดิจิมอนและออกเดินทางผจญภัยต่างๆ ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือการดำเนินเรื่องมีผลต่อตัวละครในเกม (NPC) และดิจิมอนคู่หู เหมือนชื่อภาคนี้เลยที่ต้องพาเพื่อนๆเอาตัวรอดไปให้ได้ //หากเดินผิด ชีวิตเราชีวิตเค้าก็เปลี่ยน




จุดสังเกตคือเกมนี้มีเนื้อหาที่ชวนให้ติดตามตลอดเกม แต่จุดเสียก็ตรงที่เรื่องยืดยาวจนเกินไป จนอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะดำเนินเกมอย่างรวดเร็ว หากใครที่เป็นสายเกมเนื้อเรื่องก็จะสามารถเต็มที่ไปกับเกมๆนี้ได้เสมือนได้ติดตามและผจญภัยไปด้วย

ไม่เพียงแต่สตอรี่ งานภาพ กราฟฟิค แต่ยังมีความ Horror ผสมอีกต่างหาก เพิ่มอรรถรสและความตื่นเต้นชวนขนลุกอีกด้วย


REVIEW SCORE

7.5/10

ข้อดี

+ กราฟฟิคสวยและรายละเอียดดีมาก

+ เกมเพลย์เป็นรูปแบบผสมระหว่าง Turn-Based RPG และ Visual Novel จัดวางอย่างลงตัว

+ หน้าปกเกมก็สวย จัดวางได้ดีเช่นกัน

+ สตอรี่มีความน่าสนใจ ชวนให้ติดตามตลอดทั้งเกม

+ ได้พบดิจิมอนที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

+ มีเส้นทางสตอรี่ (Route) หลากหลาย

ข้อเสีย

- สตอรี่ค่อนข้างยืดยาวไปหน่อย

เกมเพลย์มีความ Cliche หากเล่นปุ๊บจะรู้ปั๊บเลยว่านี่ดิจิมอน อยากให้มีการปรับกิมมิคหรือรูปแบบให้น่าสนใจมากกว่านี้และให้เข้ากับยุคปัจจุบัน

- เนื่องจากสัดส่วนเกมจะเน้นไปทางเนื้อหาค่อนข้างมาก อาจจะไม่ถูกใจสาย Action RPG แต่ไม่เน้นสายสตอรี่ เท่าที่ควรนัก


AVAILABLE PLATFORM : PC (STEAM) , Nintendo Switch , PS4 , XBOX


See Ya Next Game.!!

ขอให้สนุกกับการผจญภัยในโลกดิจิมอนนะครับ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น