14 ก.ค. 2565

MEGA GAME REVIEW : The House of The Dead Remake เกมยิงซอมบี้ รีเมคยกเซต

 MEGA GAME REVIIEW


อีก 1 เกมดังชาวเด็กหนวด ชาว 90s ที่นำมาปัดฝุ่นทำรีเมคใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่ง ซึ่งผมเองก็ยังจำได้ตอนสมัยเรียนประถม เวลาเข้าเรียนคอมจะเห็นเพื่อนๆเล่นเกมนี้กัน ผมก็เคยเข้าไปเล่นด้วย 

(ที่พีคกว่า เคยตั้งชื่อผีแต่ละตัวให้ด้วย เช่นผีเอี๊อะ ผีอี้ ผีขวาน 555+ //สมัยนั้นยังไม่รู้จักคำว่าซอมบี้ อาศัยเสียงและท่าทางของซอมบี้ในเกมในการตั้งชื่อเอา)

The House of The Dead


    ซีรีย์เกมยิงซอมบี้ Auto-Walk นี้ ทำออกมาหลายภาค หลาย Platform ไม่ว่าจะเป็น PC PS หรือเกมตู้ (Arcade) เริ่มต้นที่ภาคแรก ปี 1998 ซึ่งเป็นภาคที่ปังที่สุด ถ้าไม่เก็ทว่าปังตรงไหน ไปถามเพื่อนผมได้ สมัยนั้นเล่นกันติดกันงอมแงม 555+ ภาค 2 วางจำหน่ายปี 2001 และ ภาค 3 ปี 2002 ภาค 4 ปี 2005  (ภาคนี้ไม่มีเวอร์ชัน PC) และ House Of The Dead : Scarlet Dawn (เฉพาะระบบเกมตู้) และก็เป็นอันหยุดการผลิตลง (แต่ก็ยังมีไปแวะเวียนหลอกหลอน ไม่สิ! ไปคอลแลปกับเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น SEGA Tennis , Sonic Transport (มีเม่นสีน้ำเงิน โซนิค เป็นเจ้าภาพ)) ซึ่งพอตั้งแต่ภาค 2 และ ภาค 3 เป็นต้นมา กระแสก็ค่อยๆลดลงเนื่องด้วยรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างจำเจไปหน่อย (คือ Auto-Walk เหมือนเดิม เพิ่มแค่ยิงผี/ซอมบี้/ปีศาจใหม่ๆ)

The House of The Dead 2 - Source : Wikipedia

The House of The Dead III - Source : Wikipedia

*เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย* หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเกมสัญชาติฝรั่ง แต่จริงๆเกมนี้เป็นเกมสัญชาติญี่ปุ่นครับ ผลิตโดย SEGA Entertainment


Remake Version



กลับมาปัดฝุ่นทั้งที ก็ไม่ได้โดดไปจากเดิมมาก เนื้อเรื่องในเกมก็ยังคงมาไวไปไว แบบเดียวกับต้นฉบับแทบจะทั้งภาค โดยเนื้อหาหลักก็คือรับบทเป็น Thomas Rogan หรือ G บุกฝ่าและยิงซอมบี้ เข้าไปช่วยเหลือสาว Sophie แล้วหยุดยั้งการทดลองของ Curien (แต่ก็โดนบอสตัวสุดท้ายหยุดกลับ) ที่เพิ่มเติมก็คือโหมดต่างๆ ระบบ Achievements ที่ทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้นและไม่ต้องเล่นหนเดียวจบแล้วเก็บเข้าตู้ (Ver.เดิมก็เล่นวนมาเป็นสิบรอบแล้ว ไม่ได้โม้!!!) อีกหนึ่งจุดเด่นก็คือรูทในการเดินเรื่องที่สามารถทำได้หลากหลาย เช่น ยิงไปที่ปุ่มต่างๆ  พื้นที่กำลังจะพัง หรือแม้แต่จะให้ตัวประกันโดนฆ่า เพื่อเลือกทางแยกได้ (แบบนี้ก็มี ดูจะใจดำไปป่ะ??)


กราฟิคนั้นถือว่าอัพระดับและเพิ่มความสมจริงมากขึ้น ที่สำคัญรายละเอียดต่างๆไม่ว่าจะเป็น ฉาก สถานที่ ซอมบี้ ขณะเล่นเกมนี้จึงให้ความรู้สึกกดดัน เขย่าขวัญ และชวนขนหัวลุกมากขึ้น (บรรยากาศคือให้มาก ถึงมากจริงๆ ฟีลเดินเที่ยวบ้านผีสิงเลยครับน้องๆ) ตอนเล่นคือจังหวะที่ซอมบี้จ๊ะเอ๋มาบางทีตั้งตัวไม่ทันจริงๆ โผล่ปุ๊บโดนไปดอกนึง เอี๊อะ!!!



ส่วนทางบอสประจำ 4 ด่านก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปมาก (Chariot , Hangedman , Hermit  และ Magician)



และที่พีคไปยิ่งกว่าก็คืออาวุธปืนลับตามแผนที่ต่างๆ ที่ถ้าได้มาครอบครองจะรู้สึกเหมือนติดตั้งสูตร(โกง)แล้วไล่ยิงอย่างเมามันยิ่งกว่าเดิม 555+ (โดยต้องช่วยเหลือนักวิจัยทั้งหมดให้ได้ครบทุกคนซะก่อน)



Horde Mode


ยังดีหน่อยที่มีโหมด Horde เพิ่มดีกรีความโหดหินขึ้นมาหน่อยกับฝูงซอมบี้ที่มากขึ้น (เอาจริงแค่ Original ยังโหดเลย ตีเราไวชิบ!!)

ใครสายแข็งหน่อยก็อย่าลืมไปเล่นและฝ่าดงซอมบี้ไปให้รอดให้จงได้


REVIEW SCORE 6.5/10

ข้อดี

+ ไม่ต้องเดินสำรวจแผนที่เอง เพราะเป็นเกมเดินอัตโนมัติ

+ กราฟฟิคอัพเกรดขึ้น ทำให้มีความน่ากลัวlยดสยองกว่าต้นฉบับ

+ มีโหมด Horde (โหมดฝูงซอมบี้) ที่เพิ่มเข้ามา

+ มีสารานุกรมซอมบี้ 

+ มีระบบ Achievements

+ สามารถปลดล็อคอาวุธอื่นๆ นอกจากปืนสั้นได้

+ Capture หน้าจอขณะเล่นได้โดย Photo Mode 


ข้อเสีย

- เกมGameplay เหมือนภาคแรก โหมดน้อยและจบค่อนข้างเร็วเกินไป (แนะนำ : อยากให้เพิ่มเนื้อเรื่อง DLC)

- ยังเป็นเกมเดินอัตโนมัติตามฉบับ The House of The Dead จึงบังคับได้เฉพาะปืน ต้องอาศัยความแม่นยำและรวดเร็วในการยิงซอมบี้ที่ปรากฏขึ้น

- ภาคนี้ยากขึ้นกว่าภาคต้นฉบับ โดยเฉพาะ Horde Mode โหดศัส...

- สเปคต้องแรง รับรองยิงมันสะใจ

- ขณะเล่นเกม แนะนำให้ปรับแสง เนื่องจากมีหลายฉากที่ค่อนข้างมืด (แสงสีสมจริงเกิ๊น..)

- การบังคับค่อนข้างยาก (แนะนำ : เม้าส์นี่แหละ บังคับง่ายที่สุด)



AVAILABLE PLATFORM : PC (STEAM) , PS , XBOX , Nintendo Switch

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น