MEGA GAME - DNF Duel - RPG สู่สังเวียนไฝ้ว์!! เต็มรูปแบบ *UPDATE*

 MEGA GAME REVIIEW

เกริ่นนำ ก่อนไฝ้ว์

Dungeon Fighter Online (DFO) เกม RPG จากแดนกิมจิ ที่อยู่มากว่า 15 ปีแล้ว จุดเด่นคือเป็นเกมเล่นง่าย มีกิจกรรมออกมาเรื่อยๆทั้งผู้เล่นเก่าและใหม่ และในปัจจุบันก็ยังมีการอัพเดทแพทช์ และคลาสใหม่ออกมาเรื่อยๆอยู่ ซึ่งก็ดำเนินมาถึง Season ที่ 6 แล้ว 

ตัวละครมีทั้งหมด 16 ตัวละครหลัก แต่แยกย่อยกว่า 60 คลาสด้วยกัน

(ผ่านมาหลายปีคนเล่นยังเยอะอยู่เลยครับ ถือว่าเป็นเกมที่มีกระแสมาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง)

DNF Duel จาก RPG สู่สังเวียนไฝ้ว์!! เต็มรูปแบบ

หลังจากที่ Unreal Engine (บริษัทผู้พัฒนาเกมและยังเป็นซอฟต์แวร์เกมชื่อดัง) ,Neople (ค่ายเกมสัญชาติเกาหลี เจ้าของเกม DFO) , Arc System Works (ค่ายเกม Fighting ชื่อดัง ซึ่งก็รับงานสร้างเกม Fighting Game มาแล้วนัดต่อนัด ไม่ว่าจะเป็นเกม Dragonball , Granblue Fantasy Versus , Persona รวมทั้งยังส่งตัวละครไปเป็น Guest ให้กับเกมต่างๆอีกด้วย ไม่เลือกงานไม่ยากจนจริงๆค่ายนี้) จับมือร่วมกันสร้างโปรเจคต์ DNF Duel และได้ปล่อยทีเซอร์แรกเมื่อปลายเดือนธันวาคมปี 2020 

จากนั้นก็...ข่าวคราวเงียบหาย ไปเกือบหนึ่งปี~~ (โปรดใส่ทำนองด้วย) จนกระทั่งทีเซอร์อย่างเป็นทางการจริงๆ ตัวแรก ก็ปล่อยออกมา (ที่ปล่อยนี่ไม่ใช่อะไร ปล่อยแข่งกับอีกเจ้าหนึ่งที่เป็นเกม MOBA ระดับโลก มีทำซีรีย์ออกมาด้วย) พร้อมตัวละครที่เปิดเผยมาแล้ว 5 คนด้วยกัน ได้แก่ Berserker , Striker , Gunner (ชาย) , Inquisitor และ Grappler  (รับชมครั้งแรกก็โดนสาวเสื้อส้มตกเลย 😍 //เหมือน Jam Guilty Gear อ่ะ)

DNF Duel (1st Official Trailer)

ไม่พอยังมาพร้อมกับ Trailer แนะนำตัวละครและสไตล์การเล่น ติดตามรับชมได้ทาง Youtube : DNFDuel

DNF Duel รวมเหล่านักสู้

 ในเกมนี้มีนักสู้ทั้งหมด 16 คน

(ตั้งตามสายอาชีพ (Class) จาก Dungeon Fighter Online)

หมายเหตุ : ตอนเริ่มเกมครั้งแรกจะให้เล่นได้แค่ 15 ตัวละคร ส่วน Lost Warrior ต้องทำการปลดล็อคโดยผ่าน Story Mode ก่อน 1 รอบ (เล่นตัวใดก็ได้)

(ส่วนตัวชอบสาว Striker , Kunoichi , Dragon Knight , Berserker และก็ Ghost Blade เท่โพด!!)

DNF Duel Reaction & After Played - หลังจากไฝว์แล้ว เป็นยังไงบ้างเกมนี้

มาใน ver. Fighting แล้ว บอกเลยว่าเป็นอีกเกมที่ควรมีเก็บไว้จริงๆ ไม่ว่าจะรู้จักหรือเคยผ่านเกม DNF มาก่อนหรือไม่ ไม่ว่าจะเคยผ่าน Fighting เกมมาก่อนหรือเปล่า ก็สามารถเล่นได้หมด ด้วยรูปแบบท่าไม้ตายที่ไม่ซับซ้อนยุ่งยากจนเกินไป แถมแทบจะไม่มีข้อติใดๆ เพราะว่าองค์ประกอบของเกมนี้ทั้งลงตัวทั้ง Balance ทั้งครบเครื่อง เสียอย่างเดียวกระแสระยะยาวอาจจะไม่สู้ดีเท่าไหร่ นอกจากสาย Fighting จริงจัง บวกกับเกม Fighting เดี๋ยวนี้มีเยอะมากด้วย (แต่อย่างน้อย Tournament มีเกมนี้แน่นอน)

ทางด้านตัวละครก็ถือว่ามีความโดดเด่นค่อนข้างสูง เป็นเอกลักษณ์ ดีไซน์คือทีมงานทำออกมาดีเว่อร์

ส่วนภาพกราฟฟิค เนื่องด้วย ArcSys ร่วมพัฒนาด้วย ตัวเกมจึงมีความเหมือน Guilty Gear ภาค Xrd , Dragonball FighterZ , Granblue Fantasy VERSUS ซึ่งอรรถรสเดียวกันเลยคือ ความมันส์ เพลงก็เช่นกัน UI ก็จัดวางได้อย่างเหมาะสม Stage ก็สวย จัดวางรายละเอียดของฉากได้อย่างเหมาะสม ไม่รู้สึกว่าดูรกจนเกินไป

พักสายตากับ Stage สวยๆแปบ...

โหมดต่างๆ อาทิ เช่น Arcade , Survival , Online Mode , Ranked Mode สามารถเล่นเพื่อฝึกฝีมือ สู้กับผู้เล่นอื่นจากทั่วสารทิศ

ใน Part Story Mode ใครเป็นคอเกมแล้วเป็นสายดำเนินเรื่องด้วย บอกเลยว่าต้องถูกใจแน่นอน รับประกันจากผลงานสตอรี่ที่ผ่านมาจากค่ายArcSysได้เลย เพราะว่าเส้นเรื่องเค้าดีจริง ไม่ได้รู้สึกว่าน่าเบื่อจนเกินไป

DNF Duel Review Score

8/10
+ ข้อดี
+ ภาพสวย ตามฉบับ ArcSys
+ ตัวละครมีความโดดเด่น แตกต่าง เป็นเอกลักษณ์
+ เป็นเกม Fighting ที่เล่นง่าย จะเคยผ่านเกม Fighting มาก่อนหรือไม่ ก็สามารถลองเล่น ลองฝึกฝีมือกันได้

+ มีโหมดให้เล่นเยอะ (ทั้ง Local , Online)

- ข้อเสีย / ข้อแนะนำ

- Stage น้อย

- ราคาเกมเยอะ

-- AVAILABLE PLATFORM : PS4 , PS5 , STEAM (และล่าสุด Nintendo Switch) --

DNF Duel ช่วงท้าย

นอกจาก DNF Duel แล้ว อีกเกมที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาคือ Dungeon & Fighter OVERKILL มีแผนว่าจะปล่อยใน PC ซึ่งตอนนี้...ยังเงียบฉี่เลยอยู่เลยครับผม 

DNF Duel WHO's NEXT!! - Update

หลังจากเกมออกมาซักพัก พร้อมกับ Update Patch ที่มาเรื่อยๆ ล่าสุด DNF Duel ก็ได้ประกาศนักสู้คนที่ 17 ของซีรีย์นี้ - นักดาบสาว Spectre (รอนางมานานอยู่เหมือนกัน) และยังมีอีก 4 Player ที่จะเปิดตัวใน Season Pass 1 ซึ่งจะได้เล่นกันปีหน้า

Thanks for Reading. See You Next Game!!

MEGA GAME REVIEW : The House of The Dead Remake เกมยิงซอมบี้ รีเมคยกเซต

 MEGA GAME REVIIEW

อีก 1 เกมดังชาวเด็กหนวด ชาว 90s ที่นำมาปัดฝุ่นทำรีเมคใหม่ขึ้นมาอีกหนึ่ง ซึ่งผมเองก็ยังจำได้ตอนสมัยเรียนประถม เวลาเข้าเรียนคอมจะเห็นเพื่อนๆเล่นเกมนี้กัน ผมก็เคยเข้าไปเล่นด้วย 

(ที่พีคกว่า เคยตั้งชื่อผีแต่ละตัวให้ด้วย เช่นผีเอี๊อะ ผีอี้ ผีขวาน 555+ //สมัยนั้นยังไม่รู้จักคำว่าซอมบี้ อาศัยเสียงและท่าทางของซอมบี้ในเกมในการตั้งชื่อเอา)

The House of The Dead

    ซีรีย์เกมยิงซอมบี้ Auto-Walk นี้ ทำออกมาหลายภาค หลาย Platform ไม่ว่าจะเป็น PC PS หรือเกมตู้ (Arcade) เริ่มต้นที่ภาคแรก ปี 1998 ซึ่งเป็นภาคที่ปังที่สุด ถ้าไม่เก็ทว่าปังตรงไหน ไปถามเพื่อนผมได้ สมัยนั้นเล่นกันติดกันงอมแงม 555+ ภาค 2 วางจำหน่ายปี 2001 และ ภาค 3 ปี 2002 ภาค 4 ปี 2005  (ภาคนี้ไม่มีเวอร์ชัน PC) และ House Of The Dead : Scarlet Dawn (เฉพาะระบบเกมตู้) และก็เป็นอันหยุดการผลิตลง (แต่ก็ยังมีไปแวะเวียนหลอกหลอน ไม่สิ! ไปคอลแลปกับเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น SEGA Tennis , Sonic Transport (มีเม่นสีน้ำเงิน โซนิค เป็นเจ้าภาพ)) ซึ่งพอตั้งแต่ภาค 2 และ ภาค 3 เป็นต้นมา กระแสก็ค่อยๆลดลงเนื่องด้วยรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างจำเจไปหน่อย (คือ Auto-Walk เหมือนเดิม เพิ่มแค่ยิงผี/ซอมบี้/ปีศาจใหม่ๆ)

The House of The Dead 2 - Source : Wikipedia

The House of The Dead III - Source : Wikipedia

*เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย* หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเกมสัญชาติฝรั่ง แต่จริงๆเกมนี้เป็นเกมสัญชาติญี่ปุ่นครับ ผลิตโดย SEGA Entertainment

Remake Version

กลับมาปัดฝุ่นทั้งที ก็ไม่ได้โดดไปจากเดิมมาก เนื้อเรื่องในเกมก็ยังคงมาไวไปไว แบบเดียวกับต้นฉบับแทบจะทั้งภาค โดยเนื้อหาหลักก็คือรับบทเป็น Thomas Rogan หรือ G บุกฝ่าและยิงซอมบี้ เข้าไปช่วยเหลือสาว Sophie แล้วหยุดยั้งการทดลองของ Curien (แต่ก็โดนบอสตัวสุดท้ายหยุดกลับ) ที่เพิ่มเติมก็คือโหมดต่างๆ ระบบ Achievements ที่ทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้นและไม่ต้องเล่นหนเดียวจบแล้วเก็บเข้าตู้ (Ver.เดิมก็เล่นวนมาเป็นสิบรอบแล้ว ไม่ได้โม้!!!) อีกหนึ่งจุดเด่นก็คือรูทในการเดินเรื่องที่สามารถทำได้หลากหลาย เช่น ยิงไปที่ปุ่มต่างๆ  พื้นที่กำลังจะพัง หรือแม้แต่จะให้ตัวประกันโดนฆ่า เพื่อเลือกทางแยกได้ (แบบนี้ก็มี ดูจะใจดำไปป่ะ??)

กราฟิคนั้นถือว่าอัพระดับและเพิ่มความสมจริงมากขึ้น ที่สำคัญรายละเอียดต่างๆไม่ว่าจะเป็น ฉาก สถานที่ ซอมบี้ ขณะเล่นเกมนี้จึงให้ความรู้สึกกดดัน เขย่าขวัญ และชวนขนหัวลุกมากขึ้น (บรรยากาศคือให้มาก ถึงมากจริงๆ ฟีลเดินเที่ยวบ้านผีสิงเลยครับน้องๆ) ตอนเล่นคือจังหวะที่ซอมบี้จ๊ะเอ๋มาบางทีตั้งตัวไม่ทันจริงๆ โผล่ปุ๊บโดนไปดอกนึง เอี๊อะ!!!

ส่วนทางบอสประจำ 4 ด่านก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปมาก (Chariot , Hangedman , Hermit  และ Magician)

และที่พีคไปยิ่งกว่าก็คืออาวุธปืนลับตามแผนที่ต่างๆ ที่ถ้าได้มาครอบครองจะรู้สึกเหมือนติดตั้งสูตร(โกง)แล้วไล่ยิงอย่างเมามันยิ่งกว่าเดิม 555+ (โดยต้องช่วยเหลือนักวิจัยทั้งหมดให้ได้ครบทุกคนซะก่อน)

Horde Mode

ยังดีหน่อยที่มีโหมด Horde เพิ่มดีกรีความโหดหินขึ้นมาหน่อยกับฝูงซอมบี้ที่มากขึ้น (เอาจริงแค่ Original ยังโหดเลย ตีเราไวชิบ!!)

ใครสายแข็งหน่อยก็อย่าลืมไปเล่นและฝ่าดงซอมบี้ไปให้รอดให้จงได้

REVIEW SCORE 6.5/10

ข้อดี

+ ไม่ต้องเดินสำรวจแผนที่เอง เพราะเป็นเกมเดินอัตโนมัติ

+ กราฟฟิคอัพเกรดขึ้น ทำให้มีความน่ากลัวlยดสยองกว่าต้นฉบับ

+ มีโหมด Horde (โหมดฝูงซอมบี้) ที่เพิ่มเข้ามา

+ มีสารานุกรมซอมบี้ 

+ มีระบบ Achievements

+ สามารถปลดล็อคอาวุธอื่นๆ นอกจากปืนสั้นได้

+ Capture หน้าจอขณะเล่นได้โดย Photo Mode 

ข้อเสีย

- เกมGameplay เหมือนภาคแรก โหมดน้อยและจบค่อนข้างเร็วเกินไป (แนะนำ : อยากให้เพิ่มเนื้อเรื่อง DLC)

- ยังเป็นเกมเดินอัตโนมัติตามฉบับ The House of The Dead จึงบังคับได้เฉพาะปืน ต้องอาศัยความแม่นยำและรวดเร็วในการยิงซอมบี้ที่ปรากฏขึ้น

- ภาคนี้ยากขึ้นกว่าภาคต้นฉบับ โดยเฉพาะ Horde Mode โหดศัส...

- สเปคต้องแรง รับรองยิงมันสะใจ

- ขณะเล่นเกม แนะนำให้ปรับแสง เนื่องจากมีหลายฉากที่ค่อนข้างมืด (แสงสีสมจริงเกิ๊น..)

- การบังคับค่อนข้างยาก (แนะนำ : เม้าส์นี่แหละ บังคับง่ายที่สุด)

AVAILABLE PLATFORM : PC (STEAM) , PS , XBOX , Nintendo Switch